ช็อก! เข้าคาราโอเกะ 3 ชั่วโมงเสียเงิน 3 หมื่นบาท
นางสาวกร เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ หลังถูกร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ เรียกเก็บเงินจำนวน 31,000 บาท โดยไม่รู้ว่าเป็นค่าอะไร เพราะได้จ่ายค่าเครื่องดื่มและค่าห้องไปแล้ว เมื่อถามว่าเป็นค่าอะไร ก็ถูกแถมพนักงานข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะไม่ได้ออกจากร้าน จึงยอมจ่ายเพราะความกลัว
โดยนางสาวกร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยใช้บริการร้านนี้มาก่อน แต่ลูกพี่ลูกน้องที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ อยากร้องคาราโอเกะ
เลยคึกคัก นักท่องเที่ยวแห่ชมทะเลหมอก ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ
“เศรษฐา” ยกคณะนั่งรถไฟ ตรวจราชการ ชลบุรี-ระยอง
สาวหลอกคุยเจ้าอาวาสแบบชู้สาว หวังแบล็กเมล
ตนจึงพาไปที่ร้านดังกล่าว โดยเข้าไปที่ร้านเวลาประมาณ 23.43 น. ของวันที่ 2 พฤศจิกายน
เมื่อไปถึงร้าน ทางร้านได้แจ้งเงื่อนไขการใช้บริการ ว่าจะต้องเรียกเด็กมานั่งดริ้ง 2 คน เธอก็ได้เรียกมา และเพิ่มอีกคนเป็นสามคน ค่าดริ้งชั่วโมงละ 500 บาทต่อคน พร้อมกับสั่งเบียร์ขวดเล็ก 8 ขวด มาดื่มเอง และให้เด็กนั่งดริ้งดื่มด้วย ทางร้านแจ้งว่าเบียร์ขวดละ 190 บาท
จากนั้นเมื่อร้องเพลงได้ไม่นาน ได้มีเด็กมาเพิ่มอีก 3 คน พนักงานบอกว่าเป็นมาม่าซัง ไม่ต้องจ่ายดริ้ง แต่ขอจ่ายแค่ค่าน้ำส้มให้คนละแก้วก็พอ หลังจากนั้นนั่งไปประมาณ 20 นาที จึงเรียกเก็บเงินชุดแรก โดยโอนจ่ายไป 5,125 บาท
จากนั้นพนักงานกล่าวว่าเบียร์หมดแล้ว นางสาวธัญกรจึงสั่งไปอีก 12 ขวดมาให้เด็กนั่งดริ้งดื่ม เพราะเกรงใจ แต่ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงก็หมดอีก ทางผู้เสียหายก็ถูกเรียกเก็บเงินชุดที่สอง และต้องโอนจ่ายเป็นเงินอีก 2,655 บาท หลังจ่ายชุดที่สองไปแล้ว พนักงานบอกว่าเบียร์หมดอีกครั้ง และขอให้สั่งอีกหนึ่งโปร 12 ขวด เธอก็ยอมสั่งเป็นชุดที่สาม พร้อมกับโอนจ่ายไปอีก 2,655 บาท โดยชุดที่สามนี้จ่ายไปในเวลา 01.14 น. รวม 3 ครั้ง จ่ายไปกว่า 10,435 บาท
กระทั่งเวลา 02.00 นคำพูดจาก เว็บตรง. นางสาวธัญกรและญาติกำลังจะกลับบ้าน จู่ ๆ พนักงาน กลับมาบอกว่ายังมีอีกบิลหนึ่งที่ต้องจ่าย เป็นเงินกว่า 31,000 บาท ตนเป็นจึงถามไปว่าเป็นค่าอะไร เพราะที่สั่งมาก็ได้จ่ายไปทั้งหมดแล้ว และเพิ่งจ่ายไปไม่ถึงชั่วโมง พนักงานอ้างว่ายังไม่ได้จ่ายค่าเด็กนั่งดริ้ง พร้อมกับเอาบิลที่ไม่ได้ระบุรายการอะไรมาให้ดู มีแต่จำนวนเงิน ไม่มีรายการอะไรให้อ่าน เมื่อถามไปพนักงานก็ตอบอะไรไม่ได้
นางสาวธัญกร ก็ยืนยันว่าจ่ายไปทั้งหมดแล้วและนำหลักฐานสลิปโอนเงินให้ดู พนักงานก็ไม่ยอม ก่อนจะมีหญิงร่างท้วมคนหนึ่ง เข้ามาอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของร้าน บังคับให้จ่ายเงิน พร้อมทั้งเอาการ์ดมานั่งประกบไม่ให้ออกจากร้าน ญาติที่มาด้วยกลัวไม่ได้กลับบ้านและไม่อยากมีเรื่อง
ตนจึงให้เธอโอนจ่ายไปก่อนเธอจึงโอนให้ 18,000 บาท บอกว่ามีแค่นี้ แต่ทางร้านก็ยังไม่พอใจ ขู่บังคับอีก เธอจึงโอนให้ไปอีก 7,000 บาท รวมต้องจ่ายบิลเปล่าไป 25,000 บาท ก่อนทางร้านจะยอมปล่อยตัวกลับบ้าน
ผู้เสียหายกล่าวว่า เสียความรู้สึกอย่างมาก เพราะตั้งใจจะไปร้องเพลงกัน แต่ต้องจ่ายไปกับบิลเปล่า 25,000 บาท เรียกได้ว่าเหมือนโดนปล้น ไม่เป็นธรรมกับลูกค้า จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความเพื่อให้ทางร้านคืนเงินให้และแชร์ประสบการณ์เพื่อเตือนภัยไม่ให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อเหมือนกับตน
ทางทีมข่าว ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านคาราโอเกะดังกล่าว พบว่าปิดกิจการพร้อมกับปลดป้ายร้านออกไปทั้งหมดแล้ว ทิ้งไว้เพียงเก้าอี้ไม้ 2-3 ตัวหน้าร้าน และปรากฏหว่าหลังจากเข้าแจ้งความ ทางร้านได้ติดต่อมาหานางสาวธัญกร พร้อมกับขอโอนเงินคืนให้แลกกับจบเรื่อง แต่คืนให้เพียง 16,000 บาทเท่านั้น โดยจะคืนให้แค่นี้ อ้างว่าที่เหลือเป็นค่ามาม่าซัง โดยเธอยืนยันว่าทางร้านจะต้องคืนเงินให้ทั้งหมดจนครบ 25,000 บาทตามที่เธอจ่ายไป