น้ำมันดิบพุ่ง 6 สัปดาห์ติด ซาอุฯ-รัสเซีย ลดกำลังผลิตดันราคา จับตาโอเปกพลัสประชุมวันนี…
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 66 ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกวันนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 และสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับขึ้น 0.10 ดอลลาร์ หรือ +0.1% อยู่ในระดับ 85.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็สซัส (WTI) ปรับขึ้น 0.17 ดอลลาร์ หรือ +0.2% อยู่ในระดับ 81.72 ดอลลาร์ ล
โดยตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมันเคลื่อนไหว ในกรอบระดับสูง 80-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักจากด้านอุปทาน
กราฟแสดงความเคลื่อนไหวสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ตั้งแต่เดือน 6 ก.ค. – 3 ส.ค. 66
ที่ผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่พยายามควบคุมปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความต้องการใช้ เพื่อพยุงราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับสูง
ทั้งการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบีย โดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ซาอุดีอาระเบียจะผลิตน้ำมันอยู่ที่ 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึง สิ้นเดือน ก.ย. 66 ซึ่งถือเป็นการปรับลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือน ก.ค.
ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดขึ้น 50 บาท จากเงินบาทอ่อนซื้อทองแพง
ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งค่า หลังดอลลาร์อ่อนตามตัวเลขเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์การประชุมนโยบายการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน และชาติพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส (OPEC+) ในวันนี้ 4 ส.ค.66 ที่ประชุมจะยืนตามมติเดือน ต.ค. 65 ในการปรับลดกำลังการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ยาวต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 66 ขณะเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย แถลงวานนี้ว่า รัสเซียจะลดการส่งออกน้ำมันจำนวน 3 แสนบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ย.
ซึ่งจากประเด็นต่าง ๆ ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นมุมมองการควบคุมระดับราคาโดยผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกให้อยู่ในระดับที่พึงพอใจราว 80-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีหลายปัจจัยที่กดดันทางด้าน Demand ทำให้ฝ่ายวิจัยได้มีการปรับเพิ่ม
ดัชนีเงินดอลลาร์ มาตรวัดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เทียบกับสกุลเงินสำคัญทั่วโลก 6 สกุล วันนี้ปรับลดเล็กน้อย 0.10% อยู่ที่ 102.3 จุด แต่ยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้ราคาน้ำมันดิบแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอซัยพลัส ระบุว่า ในมุมมองระยะยาวสำหรับราคาน้ำมันดิบดูไบตั้งแต่ปี 67 จะขึ้นมาอยู่ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สะท้อนนโยบายของกลุ่มโอเปกพลัสที่มักจะมีมติปรับลดกำลังการผลิตในวาระต่าง ๆ ออกมาเสมอ เพื่อประคองราคาน้ำมันในตลาดไม่ให้ปรับตัวลดลงไป
ขณะที่สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 66 ยังคงไว้ที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากยังมีประเด็นสงครามรัสเซียยูเครนที่ยังมีความกังวลว่าจะส่งผลกระทบเป็นระลอก ๆ โดยภาพรวมเชิงกลยุทธ์ยังคงแนะนำลงทุนในลักษณะ trading ตามราคาน้ำมันอยู่สำหรับ PTTEPคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง